แชร์

การโพสต์หรือแชร์รูปภาพ ไม่มีความรับผิดทางอาญาตาม PDPA

อัพเดทล่าสุด: 24 ต.ค. 2024
995 ผู้เข้าชม

การโพสต์ข้อมูลส่วนบุคคล อย่างภาพใบหย่า ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ภาพถ่ายใบหน้าลูกหนี้ แม้จะเข้าข่ายข้อยกเว้นการใช้บังคับกฎหมาย PDPA แต่อาจมีความผิดตามกฎหมายอื่นๆ เช่น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท

          สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ได้เผยแพร่ความเห็นของคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจตอบข้อหารือและให้คำแนะนำหน่วยงานของรัฐเพื่อรองรับการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ)  ในประเด็นตามมาตรา 4 (1) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA

          เรื่องข้อยกเว้นการใช้บังคับ PDPA กับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคล ที่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือเพื่อกิจกรรมในครอบครัวของ บุคคลนั้นเท่านั้น (การใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน) ในประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับความรับผิดทางอาญาตาม PDPA ไว้หลายกรณี

          ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรณีที่สถานีตำรวจที่ได้รับแจ้งความมีข้อหารือมาที่ สคส. ว่ากรณีดังกล่าวเป็นความรับผิดทางอาญาตามมาตรา 79 PDPA หรือไม่ โดยมาตรา 79 กำหนดความรับผิดทางอาญาไว้สองกรณี ดังนี้

          ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลผู้ใดฝ่าฝืน. อันเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรา 26 โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลผู้ใดฝ่าฝืนอันเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรา 26 เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          ในการวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าว คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ ได้วางกรอบแนวทางไว้ ดังนี้

          พฤติกรรมตามข้อหารือเป็น การใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน อันเป็นข้อยกเว้นการใช้บังคับกฎหมายตามมาตรา 4 (1) หรือไม่

องค์ประกอบความรับผิดทางอาญาตามมาตรา 79

          การใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน (Private Use)

          คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ เห็นว่า บทบัญญัติและเจตนารมณ์ของ PDPA มุ่งประสงค์จะใช้บังคับแก่บุคคล หรือนิติบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล อย่างเป็นระบบหรือเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งขององค์กรหรือของบุคคลนั้น

          โดยกำหนดหลักการที่สำคัญประการหนึ่งเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ว่าต้องมีฐานทางกฎหมายตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 24 หรือมาตรา 26 แล้วแต่กรณี และหากไม่มีฐานทางกฎหมายอื่นได้เพื่อใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 19 และมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว และได้กำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ไว้ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บรวบรวมจนกระทั่งการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

          ประกอบกับมาตรา 4 (1) แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวได้กำหนด "ข้อยกเว้น" ไม่ให้นำพระราชบัญญัตินี้ไปใช้บังคับแก่การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือเพื่อกิจกรรมในครอบครัวของบุคคลนั้นเท่านั้น

กรณีดังต่อไปนี้ คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ เห็นว่าอาจเป็นการใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน

          1.การโพสต์ภาพใบสำคัญการหย่าในติ๊กต๊อกที่มีชื่อและนามสกุลของผู้กล่าวหาทำให้ได้รับความเสียหาย

          2.กรณีนำข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ อันเป็นข้อมูลส่วนบุคคลและยังเป็นข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรมของผู้เสียหาย ที่ผู้เสียหายถูกกล่าวหาว่าได้กระทำความผิดต่อกฎหมายไปโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กของผู้ต้องหา

          3.ผู้ต้องหาว่าจ้างผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้รับเหมาต่อเติมบ้าน แต่ผู้ต้องหาเห็นว่าผู้รับเหมาทำงานไม่ดี จึงโพสต์ภาพผลงาน ความเห็น และภาพสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้รับเหมาลงในเฟซบุ๊กของผู้ต้องหาออกสู่สาธารณะ

          4.คัดลอกภาพถ่ายใบหน้าผู้เสียหายกับครอบครัว ซึ่งเป็นภาพโพรไฟล์ (Facebook) ของผู้เสียหายไปโพสต์ในเฟซบุ๊กของผู้ต้องหา ในลักษณะนำไปโพสต์ประจานเรื่องไม่ชำระหนี้แก่ผู้ต้องหาโดยผู้เสียหายไม่ได้อนุญาต

          5.กรณีที่บุคคลธรรมดาได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น เช่น ภาพถ่ายบุคคล มาจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย และนำภาพถ่ายบุคคลดังกล่าวมาเผยแพร่ในแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

องค์ประกอบความรับผิดทางอาญาตามาตรา 79

          การใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่จะเป็นความผิดทางอาญาตามมาตรา 79 วรรคหนึ่ง ต้องเกิดขึ้นจากการที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรา 26 ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ฯลฯ

          ด้วยเหตุนี้องค์ประกอบความรับผิดที่สำคัญ คือ การกระทำผิดที่กล่าวอ้างนั้น ต้องมีข้อมูลส่วนบุคคลตามาตรา 26 (sensitive data) ประกอบด้วยเสมอ ดังนั้น ภาพถ่ายโดยทั่วไป ชื่อ-สกุล ข้อมูลการติดต่อ หรือข้อมูลทางการเงิน ไม่ใช่ข้อมูลตามมาตรา 26 การใช้หรือหรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจึงไม่อาจมีความรับผิดทางอาญาได้

 

          แต่อย่างไรก็ดี หากการกระทำของผู้ต้องหาหรือผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดมีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิในความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่นเกินสมควร ผู้กระทำอาจมีความรับผิดตามกฎหมายอื่น ๆ ได้ เช่น พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือประมวลกฎหมายอาญาในความผิดฐานหมิ่นประมาท หรืออาจเป็นการละเมิดตามมาตรา 420 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เป็นต้น.

 

 

 

อ้างอิง

1.เรื่อง สถานีตำรวจ J ขอหารือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ข้อกฎหมาย

2.เรื่อง สถานีตำรวจ H ขอหารือข้อกฎหมายเกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒

3.สถานีตำรวจ G ขอหารือข้อกฎหมายเกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒

4.เรื่อง สถานีตำรวจ E ขอหารือข้อกฎหมายเกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒

5.เรื่อง สถานีตำรวจ D ขอหารือการโพสต์ภาพใบสำคัญการหย่า

6.เรื่อง สถานีตำรวจ F ขอหารือกรณีผู้ใช้ Facebook ได้โพสต์รูปภาพและข้อความ

https://www.bangkokbiznews.com/tech/1134420?fbclid=IwY2xjawFd-n9leHRuA2FlbQIxMAABHbIkAmL8vfgSl9xol_JXQXpDnDitXqDBU2bqreYu99Fwj9tgU8-fNPuL_Q_aem_pydyv4yp-zuHUCZNHaEaHQ


บทความที่เกี่ยวข้อง
CrowdStrike หน้าที่และความรับผิดตาม PDPA เป็นของใคร
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA กำหนดหน้าที่ขององค์กรที่อาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ CrowdStrike ไว้ดังนี้
20 ก.พ. 2025
Digital Twins แบบจำลองดิจิทัล (Digital Replicas)
แบบจำลองดิจิทัล (Digital Replicas) หรือที่เรียกกันว่า "ฝาแฝดดิจิทัล" (Digital Twins) คือการจำลองเสมือนจริงของวัตถุหรือระบบทางกายภาพ
20 ก.พ. 2025
สิทธิในการลบ Apple ID / Apple Account ของผู้ใช้บริการ
สิทธิในการขอให้องค์กรที่ครอบครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการลบหรือทำลายข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับตนเอง (Right to erasure)
20 ก.พ. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy