ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
          บริษัท ดีพีโอเอเอเอส จำกัด ("บริษัท") ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและการเคารพต่อสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงจัดทำประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น ("ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล") เพื่ออธิบายถึงนโยบาย วิธีการ และวัตถุประสงค์ของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ("ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล") ของท่านให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ("กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล") รวมถึงนโยบายและระเบียบในการดำเนินงานของบริษัทเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อแสดงความโปร่งใสและเป็นธรรมของบริษัทในการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ระบุไว้ในประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับจะถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้และตามที่กฎหมายกำหนด
 
          บริษัทจึงขอเรียนให้ท่านโปรดอ่านประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้โดยละเอียดเพื่อรับทราบและเข้าใจวัตถุประสงค์ที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
 
1. แหล่งที่มาของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
     1.1 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรง เช่น การที่ท่านลงทะเบียนเข้าร่วมการฝึกอบรม สัมมนา หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่บริษัทได้จัดขึ้น หรือสอบถามข้อมูลเหล่านั้นจากท่าน หรือการเข้าใช้งานระบบเว็บไซต์ของบริษัทผ่านคุกกี้ (Cookies)
     1.2 บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากท่านโดยตรง เช่น หน่วยงานราชการ หน่วยงานต้นสังกัดของท่าน หน่วยงานภายนอกซึ่งเป็นเจ้าของหลักสูตรอบรม แหล่งข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งเปิดเผยสาธารณะ เช่น ข้อมูลที่สืบค้นได้จากอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
 
2. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
     2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
     ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับท่านโดยที่ข้อมูลนั้นสามารถระบุตัวตนท่านได้ไม่ว่าโดยตรงหรืออ้อม (ไม่รวมถึง ข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม) ตามที่ได้ระบุไว้ด้านล่าง
     ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 26
     ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม
          (1) ข้อมูลทั่วไป เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ ลายมือชื่อ ภาพถ่าย รหัสพนักงาน เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด สำเนาบัตรประชาชน เป็นต้น
          (2) ข้อมูลคุกกี้
          (3) ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล Facebook LINE ID เป็นต้น
          (4) ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การลงทะเบียน การบันทึกภาพนิ่ง บันทึกวิดีโอและหรือเสียง หรือภาพเคลื่อนไหวในลักษณะอื่น เป็นต้น
          (5) ข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรที่เข้าอบรม
          (6) ข้อมูลการทำงาน เช่น อาชีพ ตำแหน่ง หน่วยงานที่สังกัด ประวัติการทำงาน
          (7) ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็น ความคาดหวัง ความพึงพอใจในการเข้าร่วมงานอบรม งานสัมมนา หรือกิจกรรมอื่น ๆ
          (8) ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ เพื่อการอำนวยความสะดวกตามจำเป็น เช่น ขนาดเสื้อ อาหารหรือเครื่องดื่มที่ทาน เป็นต้น
          (9) ข้อมูลคะแนนและผลการทำแบบทดสอบ
     ทั้งนี้ หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องใช้เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือเพื่อเข้าทำสัญญาแก่บริษัท อาจทำให้การปฏิบัติงานตามสัญญาและสิทธิในการเข้าถึงสวัสดิการหรือบริการที่บริษัทจัดไว้ ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์
     2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม
     หากท่านให้ข้อมูลบุคคลที่สามแก่บริษัท เช่น ข้อมูลที่ระบุตัวคู่สมรสหรือบุตรของท่าน และ/หรือบุคคลอื่นใดที่ท่านมีความสัมพันธ์อันเกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ที่ท่านมีกับบริษัท ท่านโปรดแจ้งประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แก่บุคคลที่สามดังกล่าวเพื่อให้รับทราบประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้และขอความยินยอมหากจำเป็นหรือมีฐานทางกฎหมายอื่นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามมายังบริษัทด้วย
 
3. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
     3.1 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลอื่น เช่น
          • การจัดเตรียมงาน การวิเคราะห์และจัดรูปแบบกิจกรรม การจัดหาสถานที่ การจัดหาอาหารและเครื่องดื่ม
          • การตรวจสอบจำนวนผู้เข้าร่วม การลงทะเบียนเข้าร่วม การจัดทำทะเบียนและประวัติการร่วมกิจกรรมของผู้เข้าร่วมงาน
          • การดำเนินกิจกรรม รวมถึงแจกของที่ระลึก ของรางวัล
          • การแจ้งรายละเอียดการเข้าร่วม เช่น รายชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม วัน เวลา สถานที่ เป็นต้น
          • การประเมิน วิเคราะห์ และปรับปรุงการจัดงานอบรม
          • การดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ กับบริษัท เช่น การเรียกเก็บเงิน การเข้าทำธุรกรรม การดำเนินการชำระเงิน เป็นต้น
          • การประชาสัมพันธ์การจัดงาน
          • การจัดทำรายงานผลการจัดกิจกรรม
          • การวัดผลและประเมินผลก่อนและหลังการอบรม
     3.2 เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ
     3.3 เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้ในแต่ละคราว
    3.4 เพื่อ เพื่อดำเนินการตามคำขอ ความประสงค์ของท่านก่อน หรือขณะเข้าทำสัญญา รวมถึง การติดต่อกับท่านก่อนที่ท่านจะเข้าทำสัญญากับบริษัท และดำเนินการใด ๆ เพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจของบริษัท เช่น การประเมินความเหมาะสม คุณสมบัติ การเสนอราคา การสมัครเพื่อศึกษาอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ ของทางบริษัท
    3.5 เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ ทั้งใน และต่างประเทศที่ใช้บังคับ และเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ รวมถึงการดำเนินการที่เกี่ยวกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือการดำเนินคดี โดยบริษัทใช้ฐานการปฏิบัติตามกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
     3.6 เพื่อใช้ในการออกใบกำกับภาษี โดยเป็นไปตามประมวลรัษฎากรและกฎหมายหรือประกาศอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
 
4. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
     บริษัทไม่มีความประสงค์ให้บริษัทจัดเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน แต่หากข้อมูลดังกล่าวปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านได้สมัครใจเปิดเผยไว้ต่อบริษัท เช่น เชื้อชาติ หรือข้อมูลศาสนา และท่านได้ทำการส่งมอบข้อมูลใด ๆ ซึ่งปรากฏข้อมูลที่มีลักษณะเช่นว่านี้ให้แก่บริษัทไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบข้อมูลในลักษณะเป็นเอกสาร หรือสื่ออื่นใด บริษัทแนะนำให้ท่านเป็นผู้ปกปิดข้อมูลอ่อนไหวเหล่านี้ ด้วยตัวท่านเอง โดยวิธีการขีดฆ่าข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว อย่างไรก็ตามหากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลด้วยตัวท่านเอง บริษัทถือว่าท่านได้อนุญาตโดยชัดแจ้งให้บริษัททำการปกปิดข้อมูลเหล่านี้ให้แก่ท่าน และให้ถือว่าข้อมูลที่ท่านส่งมอบมานี้ ซึ่งบริษัทได้จัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวให้แก่ท่านแล้วเป็นเอกสารที่สมบูรณ์ ใช้ บังคับได้ตามกฎหมายทุกประการ และให้บริษัทสามารถนำไปประมวลผลได้ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้้ หากเป็นกรณีที่บริษัทไม่สามารถจัดการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวแก่ท่านได้เนื่องด้วยปัญหาเชิงเทคนิค หรือปัญหาอื่นใด บริษัทจะทำการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวนี้้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
 
5. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
     ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ท่านมีสิทธิ ดังต่อไปนี้
    5.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลา อย่างไรก็ดี การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
     5.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสามารถแจ้งให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงมีสิทธิให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม
    5.3 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
       5.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากพบว่าไม่มีความจำเป็นที่จะเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือในกรณีที่ท่านถอนความยินยอมแล้วและบริษัทไม่มีอำนาจที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไปหรือในกรณีที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทไม่สามารถอ้างเหตุปฏิเสธการคัดค้านได้ หรือในกรณีที่การประมวลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย
     5.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ในระหว่างรอการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้ร้องขอให้แก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้ถูกต้อง หรือขอให้ระงับการใช้แทนการลบข้อมูลส่วนบุคคล หรือในระหว่างการพิสูจน์ของบริษัทเพื่อปฏิเสธการใช้สิทธิคัดค้านของท่าน
    5.6 สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านจากบริษัท ขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
     5.7 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น หรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
อย่างไรก็ดี บริษัทอาจปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นของท่านได้ตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทปฏิเสธการใช้สิทธิ บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบ
     5.8 สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
 
6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือองค์กร ดังต่อไปนี้
         (1) องค์กรอื่นใดที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย รวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัท เป็นต้น
     (2) หน่วยงานของรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดย อาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสรรพากร กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศาล และกรมบังคับคดี เป็นต้น
     (3) คู่ความร่วมมือ คู่ค้า ตัวแทน หรือองค์กรอื่น เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระ ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลบุคคลส่วนบุคคลของท่าน จะมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเจาะจงภายใต้ฐานทางกฎหมาย และมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม
         (4) บริษัทและสถาบันการเงินอื่น ๆ รวมทั้งบุคคลภายนอก ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูล
        (5) บุคคลภายนอกที่ให้บริการต่าง ๆ แก่บริษัท เช่น ผู้ให้บริการประมวลผลระบบคลาวด์ ตัวแทน หรือผู้รับเหมาช่วงที่กระทำการแทนบริษัท หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลช่วง
         (6) ผู้ให้บริการด้านสื่อสังคมออนไลน์
         (7) ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ตัวแทน หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่านที่มีอำนาจตามกฎหมาย
         (8) ที่ปรึกษาของบริษัท อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้ง ภายในและภายนอกของบริษัท เป็นต้น
 
7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
     บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศให้แก่ผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการประมวลผลระบบคลาวด์ในต่างประเทศ บริษัทที่เป็นคู่ค้าหรือคู่สัญญาสำคัญของบริษัท หรือผู้รับข้อมูลของบริษัทซึ่งมีมาตรฐานในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เท่ากับหรือสูงกว่าประเทศไทย ในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลต่ำกว่าหรือไม่เพียงพอ ทางบริษัทจะดำเนินการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรฐานในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่จำเป็นและเหมาะสม
 
8. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
     บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้โดยมีระยะเวลาเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมา ทั้งนี้ เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทอาจต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานขึ้นหากมีกฎหมายกำหนดไว้
 
9. การรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
     บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหายการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย
ในกรณีที่บริษัทให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปีดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแทนบริษัท บริษัทจะกำหนดให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกดังกล่าวเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงป้องกันมิให้นำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเพื่อการอื่นใด โดยไม่มีอำนาจ หรือโดยขัดต่อกฎหมาย
 
10. การเปลี่ยนแปลงประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
     บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว โดยบริษัทจะประกาศเผยแพร่ที่ https://www.dpoaas.co.th/ และช่องทางอื่น ๆ ของทางบริษัท อย่างไรก็ตาม หากการแก้ไขดังกล่าวมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าตามความเหมาะสมก่อนที่การเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขนั้นจะมีผลใช้บังคับ
 
11. วิธีการติดต่อบริษัท
     หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ของบริษัท โปรดติดต่อบริษัทตามช่องทาง ดังต่อไปนี้
ชื่อบริษัท: บริษัท ดีพีโอเอเอเอส จำกัด
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 234/16 หมู่ 3 ถนนบางนา-ตราด กม.15 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี สมุทรปราการ 10540
โทรศัพท์: 02-1019672
อีเมล: contact@dpoaas.co.th
 
ปรับปรุงแก้ไขล่าสุด ฉบับเดือน กันยายน พ.ศ. 2567
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy