แชร์

การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลและการแจ้งเหตุการละเมิด

อัพเดทล่าสุด: 24 ต.ค. 2024
660 ผู้เข้าชม

พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เป็นกฎหมายที่กำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบขององค์กรในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องปฏิบัติเมื่อดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งหน้าที่ ๆ สำคัญประการหนึ่งขององค์กร คือ การจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม (Security of Processing/Data Security) และในกรณีที่ มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ดังกล่าวที่องค์กรดำเนินการไม่เป็นไปตามมาตรฐานหรือเกิดข้อผิดพลาดอันอาจนำไปสู่เหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล (Data Breach) องค์กรก็จะมีหน้าที่แจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด (Data Breach Notification)


หน้าที่ในส่วนของ การมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย และ การแจ้งเหตุการละเมิด (ถ้าหากมี) จึงเป็นสองหน้าที่ที่มาควบคู่กันเสมอ ในระบบกฎหมายด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ถือว่าเมื่อองค์กรนำเข้าและใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคล องค์กรก็มีหน้าที่ต้องดูแลรักษา และเมื่อไม่สามารถดูแลได้จนนำมาซึ่งการเกิดเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล องค์กรก็ต้องรีบดำเนินการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลตามเงื่อนไขของกฎหมาย เพื่อให้มีการประเมินและพิจารณาความเสี่ยงต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยเร็ว พร้อมทั้งดำเนินการเยียวยาแก้ไขความเสียหายและผลกระทบใด ๆ ที่อาจมีต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล อันเป็นการปกป้องส่วนได้เสียต่าง ๆ ของผู้ใช้บริการ/ประชาชน


ตามประกาศฯ มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ข้อ 3. ความมั่นคงปลอดภัย หมายความว่า การธำรงไว้ซึ่งความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ดังนั้น ความมั่นคงปลอดภัย จึงไม่ใช่แต่การรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังหมายความรวมถึง การทำให้ระบบหรือฐานข้อมูล มีความถูกต้อง และอยู่ในสภาพที่เมื่อจะใช้งานต้อง พร้อมใช้งาน ได้อีกด้วย การที่ข้อมูลสูญหายไปหรือเข้าใช้ไม่ได้ เช่น ระบบล่ม เว็บล่ม หรือเครือข่ายล่ม จึงอาจเป็นการละเมิดหรือการที่องค์กรไม่มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมตามกฎหมายเช่นเดียวกัน


ประกาศฯ หลักเกณฑ์และวิธีการในการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนดว่า เหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลมี 3 ประเภท ดังต่อไปนี้

1.   การละเมิดความลับของข้อมูลส่วนบุคคล (Confidentiality Breach) ซึ่งมีการเข้าถึงหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ หรือเกิดจากข้อผิดพลาดบกพร่อง หรืออุบัติเหตุ

2.   การละเมิดความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลส่วนบุคคล (Integrity Breach) ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์ หรือไม่ครบถ้วน โดยปราศจากอำนาจ หรือโดยมิชอบ หรือเกิดจากข้อผิดพลาดบกพร่องหรืออุบัติเหตุ

3.   การละเมิดความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล (Availability Breach) ซึ่งทำให้ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือมีการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้ตามปกติ

ประกาศฯ หลักเกณฑ์และวิธีการในการแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลฯ ยังได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ด้วยว่า เมื่อองค์กรได้รับแจ้งข้อมูลในเบื้องต้นจากผู้ใด ไม่ว่าโดยทางวาจา เป็นหนังสือ หรือวิธีการอื่นทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือองค์กรทราบเอง ว่ามีหรือน่าจะมีเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล องค์กรต้องดำเนินการ ดังต่อไปนี้

1.   Detection and Analysis: ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลในเบื้องต้นโดยไม่ชักช้าเท่าที่จะสามารถกระทำได้ ว่ามีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ (reasonable degree of certainty) เพื่อให้องค์กรสามารถยืนยันได้ว่ามีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลเกิดขึ้นหรือไม่ รวมทั้งประเมินความเสี่ยงที่การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล

2.   Containment, Eradication and Recovery: หากระหว่างการตรวจสอบตาม (1) พบว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ให้องค์กรดำเนินการด้วยตนเองหรือสั่งการให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้เกี่ยวข้องดำเนินการป้องกัน ระงับ หรือแก้ไขเพื่อให้การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลสิ้นสุดหรือไม่ให้การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลส่งผลกระทบเพิ่มเติมโดยทันทีเท่าที่จะสามารถกระทำได้ 

3.   Response: เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงตาม 1. แล้วเห็นว่า มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลจริง ให้องค์กรแจ้งเหตุการละเมิดแก่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุเท่าที่จะสามารถกระทำได้ เว้นแต่การละเมิดดังกล่าวไม่มีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล

4.   Notify: ในกรณีที่การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ให้องค์กรแจ้งเหตุการละเมิดให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าด้วย

5.   Recover and Post Incident Response: ดำเนินการตามมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมเพื่อระงับ ตอบสนอง แก้ไข หรือฟื้นฟูสภาพจากเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมทั้งป้องกันและลดผลกระทบจากการเกิดเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะเดียวกันในอนาคต ซึ่งรวมถึงการทบทวนมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม

จากข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องดังกล่าว จึงเห็นได้ว่า พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยและการดูแลรักษาตลอดวงจรชีวิตของข้อมูลส่วนบุคคล โดยคำนึงถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และโปร่งใสขององค์กรต่าง ในขณะเดียวกันองค์กรก็ต้องเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบเศรฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย.

โดย
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.)


บทความที่เกี่ยวข้อง
CrowdStrike หน้าที่และความรับผิดตาม PDPA เป็นของใคร
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA กำหนดหน้าที่ขององค์กรที่อาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ CrowdStrike ไว้ดังนี้
20 ก.พ. 2025
Digital Twins แบบจำลองดิจิทัล (Digital Replicas)
แบบจำลองดิจิทัล (Digital Replicas) หรือที่เรียกกันว่า "ฝาแฝดดิจิทัล" (Digital Twins) คือการจำลองเสมือนจริงของวัตถุหรือระบบทางกายภาพ
20 ก.พ. 2025
สิทธิในการลบ Apple ID / Apple Account ของผู้ใช้บริการ
สิทธิในการขอให้องค์กรที่ครอบครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการลบหรือทำลายข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับตนเอง (Right to erasure)
20 ก.พ. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy