ภาษีของ Bagel

Bagel เป็นขนมปังรูปกลม มีรูตรงกลางเหมือนโดนัท ฝรั่งนิยมทาน Bagel กันเป็นอาหารเช้าโดยเอามาผ่าครึ่ง แล้วทาเนยสีขาวที่เรียกว่า cream cheese จะให้พิเศษขึ้นมาอีกนิดก็ใส่เนื้อปลาแซลมอนรมควันเข้าไป ประกบกันเหมือนกับแซนวิช ในประเทศเกาหลี Bagel กำลังได้รับความนิยมมาก มี Bagel ไส้ต่าง ๆ มากมาย มีคนไปยืนเข้าแถวรอคิวอยู่หน้าร้านหลายสิบคน แต่ในประเทศไทย Bagel ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก มีร้านขาย Bagel อยู่เพียงไม่กี่ร้าน และไม่ต้องเข้าคิว
Bagel เกิดมาเป็นข่าวเดือนที่แล้ว เมื่อมีคนสมองใสคิดวิธีหลบภาษีให้กับคนกิน Bagel ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น เวลาจะซื้อของอะไร ผู้ซื้อจะต้องเสียภาษี Sale Tax ซึ่งเป็นภาษีที่เก็บจากคนซื้อของอีกกี่เปอร์เซ็นต์

ก็แตกต่างกันไปแต่ละรัฐ บวกเข้าไปในราคาสินค้า คล้าย ๆ กับภาษีมูลค่าเพิ่มของบ้านเรา แต่ทว่าคนขายเอาไปหักลบไม่ได้ ในกรุงนิวยอร์กเป็นเมืองที่ภาษีแพง ภาษี Sale Tax เท่ากับ 4.5% เพราะฉะนั้นถ้าจะซื้อของอะไรก็จะต้องบวกภาษีเพิ่มไปเช่น ซื้อของ 100 ดอลลาร์ ก็จะต้องบวกเพิ่มเข้าไปอีก 4.5 ดอลลาร์เป็นค่าภาษี ตามธรรมดา ถ้าซื้อ Bagel เปล่า ๆ ทั้งอัน จะได้รับการยกเว้นภาษี แต่ถ้าผ่าครึ่งแล้วมีของเติมไปเมื่อไหร่ Bagel นั้นจะถูกตีความว่าเป็นแซนวิช
ประเภทหนึ่ง ซึ่งจะต้องเสีย Sale Tax

เรื่องนี้ก็เป็นที่ฮือฮากันอยู่พอสมควร เพราะนิวยอร์กเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องของ Bagel ท่านอาจจะเคยได้ยินที่เขามีสำนวนไว้เรียกเฉพาะว่า New York-Style Bagel ในปี 2019 สรรพากร (ซึ่งเขาเรียกว่า Department of Taxation and Finance) ได้ออกแนวทาง (guideline) ที่จะถือว่าอะไรเป็นแซนวิชที่ต้องเสียภาษี โดยอธิบายว่า
Sandwiches include cold and hot sandwiches of every kind that are prepared and ready to be eaten, whether made on bread, on bagels, on rolls, in pitas, in wraps, or otherwise, and regardless of the filling or number of layers. A sandwich can be as simple as a buttered bagel or roll, or as elaborate as a six-foot, toasted submarine sandwich.

ขอแปลอย่างสรุปนะครับ เพราะมีคำศัพท์ที่เป็นชื่อเรียกอาหารของฝรั่งอยู่หลายคำ คนไทยอาจจะไม่คุ้นเคย สรุปก็คือ แซนวิชที่ต้องเสียภาษีนั้นหมายถึง แซนวิชไม่ว่าร้อนหรือเย็น ที่ถูกเตรียมมาให้พร้อมที่จะรับประทาน
ซึ่งอาจจะเป็นอาหารง่าย ๆ อย่าง bagel หรือขนมปัง roll ทาเนย พร้อมกันนั้นใน guideline ดังกล่าวก็ได้ยกตัวอย่างขนมปังที่ถือว่าเป็นแซนด์วิชอันจะต้องเสีย sale tax ไว้ โดยมีตัวอย่างโดยมีอันหนึ่งบอกว่า “bagel sandwiches (served buttered or with spreads, or otherwise as a sandwich)” แปลอย่างง่าย ๆ ก็คือ bagel ที่ทาด้วยเนยหรือสเปรด หรืออย่างอื่นใดอย่างแซนวิช

เมื่อต้นเดือนเมษายนนี้ ร้าน H&H Bagels ได้ประกาศว่า พบวิธีที่จะทำให้ผู้ซื้อไม่ต้องเสียภาษีแล้ว โดยทางร้านจะขาย Bagel ทั้งอันโดยไม่ผ่าครึ่ง แล้วเอา cream cheese สอดไส้เข้าไปใน bagel แทน แบบเดียวกับโดนัทสอดไส้ โดยวิธีนี้จะทำให้ไม่ต้องผ่า bagel ออกและจะไม่ถูกถือว่าเป็นแซนวิชที่จะต้องเสียภาษี sale tax มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า bagel แบบที่ว่าของร้าน H&H Bagels ไม่ต้องเสียภาษี sale tax นั้น ความจริงก็ยังน่าสงสัยอยู่ เพราะในคำนิยามของแซนวิชใน guideline ก็น่าจะรวมถึง bagel ที่ยังไม่ได้ผ่าแต่สอดไส้มาด้วย

เรื่องนี้ไม่ได้มีความกันขึ้นโรงขึ้นศาลแต่อย่างใด และร้าน H&H Bagels ก็ประกาศมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าการขาย bagel สอดไส้ที่ว่านั้นมีเพียงวันที่ 14-18 เมษายนเท่านั้น

โดย
พิเศษ เสตเสถียร